สดแต่เช้า Ep.174 เคล็ดลับแห่งความสุข!
Manage episode 440995946 series 3264869
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (174)
เคล็ดลับแห่งความสุข!
“ข้าพเจ้าวางแบบอย่างให้ท่านแล้วในทุกเรื่อง
เพื่อให้เห็นว่าโดยการตรากตรำงานแบบเดียวกันนี้
เราต้องช่วยพวกที่มีกำลังน้อย และระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามที่พระองค์ตรัสว่า ‘
การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ’ ””
~กิจการ 20:35 THSV11
“
อาจารย์เปาโลได้วางแบบอย่างในการดำเนินชีวิตแห่งการให้
เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำเนินตามโดยท่านกล่าวดังนี้ว่า
“1. ข้าพเจ้าไม่ได้โลภ
1).เงิน หรือ
2).ทอง หรือ
3).เสื้อผ้าของใครเลย
พวกท่านเองก็ทราบว่า มือทั้งสองของข้าพเจ้าจัดหาปัจจัย
ก.สำหรับตัวเองและ
ข.สำหรับพวกที่อยู่กับข้าพเจ้า
2.ข้าพเจ้าวางแบบอย่างให้ท่านแล้วในทุกเรื่อง
เพื่อให้เห็นว่าโดยการตรากตรำงานแบบเดียวกันนี้ เราต้อง
1).ช่วยพวกที่มีกำลังน้อย และ
2).ระลึกถึงพระวจนะของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ตามที่พระองค์ตรัสว่า
‘การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ’ ””
~กิจการ 20:33-35 THSV11
Martin Luther King, Jr. เคยกล่าวข้อคิดสะกิดใจว่า
“คำถามที่สำคัญเร่งด่วนมากที่สุดของชีวิตก็คือ
คุณกำลังทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง?
(Life’s most persistent and urgent question is:
What are you doing for others?)
ถ้าจะให้สอดคล้องกับสิ่งที่พระเยซูคริสต์ตรัสไว้ข้างต้น
เราก็คงจะถามคำถามใหม่ ว่า
”คุณกำลังให้อะไรที่จำเป็นแก่คนอื่นบ้าง?“
เวลานี้มีใครบ้างหรือไม่
1.ที่อยู่กับเรา หรือ
2.อยู่ตรงหน้าเรา ที่มีความจำเป็นบางอย่าง
และเราสามารถจะให้สิ่งนั้นกับเขาได้
…แล้วเราให้สิ่งเหล่านั้นแก่เขาหรือยัง? ทำไม?
ถ้าหากว่าเวลานี้เรายังไม่ยอมให้ หรือ ให้อะไรออกไปไม่ได้
นั่นมีความหมายว่าวิญญาณของเรายังไม่มีอิสระอย่างแท้จริง
เรายังคงถูกผูกมัด หรือถูกคุมขัง ไว้ด้วย ”ความเห็นแก่ตัว!“
เราจึงควรรีบปลดปล่อยตัวเราให้เป็นอิสระด้วย“การให้”
เหมือนอย่างที่ Maya Angelou กล่าวไว้ว่า
“ฉันได้พบว่าในท่ามกลางบรรดาประโยชน์ของการให้
หนึ่งในนั้นก็คือ การให้ปลดปล่อยจิตวิญญาณของผู้ให้!”
(I have found that among its other benefits,
giving liberates the soul of the giver.)
เราไม่ควรกลัวว่าการให้ของเราจะทำให้เราจนลง
Anne Frank กล่าวไว้ว่า
“ไม่มีใครกลายเป็นคนยากจนจากการให้!”
(No one has ever become poor from giving.)
คนจำนวนมากต้องสะสมทรัพย์ทรัพย์หรือสิ่งของไว้มากมาย
เพียงเพื่อจะมีความสุข
แต่กลับเป็นว่า พวกเขาไม่มีความสุขจากการมีสิ่งของเหล่านั้น
ตรงกันข้าม สิ่งเหล่านั้น กลับนำเอาความทุกข์ใจ ความกังวล ความกลัว หรือแม้แต่อันตราย
มาสู่ชีวิตของพวกเขา และคนในครอบครัวของพวกเขาเอง
และตราบใดที่เขายังไม่มีความสุข ตามนั้นเขาคงเป็นคนจนอยู่เสมอ!
ตรงกันข้าม บางคนอาจจะมีน้อยแต่เขากลับสามารถ
1.แบ่งปัน หรือ
2.ให้สิ่งที่เขามีแก่
คนบางคนหรือหลายคนที่ กำลังมีความจำเป็นเพราะความขัดสนหรือความยากลำบาก
การให้ของเขาก่อให้เกิดความสุข อย่างน้อย ก็กับคนสามคน นั่นคือ
1. กับตัวของผู้รับ ~นั่น คือ เขา
2. กับตัวของผู้ให้ ~นั่นคือ เรา และ
3. กับตัวของผู้ที่เห็นหรือที่ได้ยินเรื่องราวการให้การรับ ~นั่นคือคนอื่นๆโดยทั่วไป
ผมเห็นด้วยกับที่ Israelmore Ayivor กล่าวว่า
“การให้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่มาก่อนการได้รับ
แต่นั่นเป็นเหตุผลสำหรับการได้รับ
เพราะว่าในการให้นั้น เราเองได้รับ!”
(Giving does not only precede receiving; it is the reason for it.
It is in giving that we receive.)
คำถามคือ “เราเองได้รับอะไร?”
พระเยซูคริสต์ตรัสไว้ ”การให้“เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ!
ใช่ครับ เราจะได้ความสุข ในนาทีที่เราให้ออกไป!
เพียงแต่อย่าให้เราเข้าใจผิดว่า การให้นั้น หมายถึง การให้เงินทอง เท่านั้น!
Steve Goodier กล่าวไว้ชัดเจนว่า
“เงินไม่ใช่สิ่งเดียวที่เราจะให้ออกไปได้
เราสามารถให้เวลา
ให้ความเชี่ยวชาญ
ให้ความรักหรือ แม้แต่แค่
ให้รอยยิ้ม
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า สิ่งที่เราให้นั้น ราคาเท่าไหร่
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ไม่มีใครในพวกเราจะไร้บางสิ่งที่มีคุณค่าในการมอบให้แก่ผู้อื่น!”
(Money is not the only commodity that is fun to give.
We can give time, we can give our expertise,
we can give our love, or simply give a smile.
What does that cost? The point is, none of us can ever run out
of something worthwhile to give.”
ดังนั้น พี่น้องที่รัก ไม่ว่าเราจะยากจนหรือร่ำรวย ขอให้
วันนี้ เรามาร่วมกันสร้างสุขให้กับ
1.หัวใจของเรา และ
2.หัวใจของคนอีกมากมาย
ด้วยการให้ บางสิ่งบางอย่าง
1).ที่เรามีอยู่ และ
2).ที่ตรงกับความต้องการของผู้รับ
…จะดีไหมครับ
783 ตอน