Artwork

เนื้อหาจัดทำโดย Soul Food Ministries เนื้อหาพอดแคสต์ทั้งหมด รวมถึงตอน กราฟิก และคำอธิบายพอดแคสต์ได้รับการอัปโหลดและจัดหาให้โดยตรงจาก Soul Food Ministries หรือพันธมิตรแพลตฟอร์มพอดแคสต์ของพวกเขา หากคุณเชื่อว่ามีบุคคลอื่นใช้งานที่มีลิขสิทธิ์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่แสดงไว้ที่นี่ https://th.player.fm/legal
Player FM - แอป Podcast
ออฟไลน์ด้วยแอป Player FM !

Ep.30 ใน Hello อาจมี Hell ซ่อนอยู่!

11:07
 
แบ่งปัน
 

Manage episode 415280984 series 3264869
เนื้อหาจัดทำโดย Soul Food Ministries เนื้อหาพอดแคสต์ทั้งหมด รวมถึงตอน กราฟิก และคำอธิบายพอดแคสต์ได้รับการอัปโหลดและจัดหาให้โดยตรงจาก Soul Food Ministries หรือพันธมิตรแพลตฟอร์มพอดแคสต์ของพวกเขา หากคุณเชื่อว่ามีบุคคลอื่นใช้งานที่มีลิขสิทธิ์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่แสดงไว้ที่นี่ https://th.player.fm/legal
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(30) ใน Hello อาจมี Hell รออยู่! ”ในเวลาที่ได้รับสิ่งดีๆ ก็จงชื่นชมยินดี แต่ในเวลาที่ได้รับสิ่งร้ายๆ ก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะค้นไม่พบว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรตามเขามาในภายหลัง“ ~ปัญญาจารย์ 7:14 THSV11 ”When times are good, you should be cheerful; when times are bad, think about what it means.God makes them both to keep us from knowing what will happen next.“ ~Ecclesiastes 7:14 CEV ผู้เขียนพระธรรมปัญญาจารย์ กล่าวเตือนสติพวกเรา จากพระคัมภีร์ฉบับแปล THSV11 ว่า 1.จงชื่นชมยินดี ~ในเวลาที่เราได้รับสิ่งดีๆ 2.จงพินิจพิจารณา ~ในเวลาที่เราได้รับสิ่งร้ายๆ โดยให้เหตุผลว่า “พระเจ้า”ทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง (1+2) เพื่อมนุษย์จะค้นไม่พบว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไร ตามเขามาในภายหลัง?“ ในฉบับคำแปลโบราณ TH1940 ที่เรียกพระคัมภีร์ข้อนี้ว่า “ท่าน​ผู้ประกาศ 7:14” ได้แปลไว้ว่า ”1.เมื่อ​เวลา​มี​ความ​จำเริญ​ ~ก็​จง​ชื่นชมยินดี, แต่​ 2.เมื่อ​ถึง​เวลา​อับจน ~​ก็​จง​ตรึกตรอง​ดู​นะ; เออ, พระเจ้า​ได้​ทรง​บันดาล​ให้​มัน​เกิด​มา​เป็น​คู่​กัน​ไป, เพื่อ​เมื่อ​ถึง​ที่สุด​ปลาย​มนุษย์​ก็​จะ​ไม่​มี​อะไร​เหลือ​ไว้​ข้างหลัง​เขา“ ~ท่าน​ผู้ประกาศ 7:14 TH1940 ในฉบับคำแปล TH1971ที่นิยมใช้กันมายาวนาน แปลว่า ”1.เมื่อเวลามีความเจริญ ~ก็จงชื่นชมยินดี แต่ 2.เมื่อถึงเวลาอับจน ~ก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะไม่ค้นได้ว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรมา“ ~ปัญญาจารย์ 7:14 TH1971 โยบเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่เข้าใจในความจริงนี้ ดังตัวอย่างทัศนคติของท่านในการรับมือ กับวิกฤติในชีวิต ดังนี้ ”1.ซาตานจึง 1).ออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์ และ 2).ทำให้โยบเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อม และ 3).โยบก็เอาชิ้นหม้อแตกมาขูดตัว และนั่งอยู่ในกองขี้เถ้า 4).ภรรยาท่านกล่าวกับท่านว่า “เธอยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์อยู่อีกหรือ? จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ” แต่ 5).ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโง่เขลาจะพึงพูด เราจะรับสิ่งดีจากพระเจ้า และ จะไม่รับสิ่งไม่ดีบ้างหรือ?” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน“ ~โยบ 2:7-10 THSV11 ใช่ครับ โยบ 1.รับมือกับเรื่องดีๆ ในชีวิต ด้วยความชื่นชมยินดี และ 2.รับมือกับเรื่องร้ายๆ ด้วยการพินิจพิจารณา ในคำแปล ฉบับ TNCV ขยายความให้เราเข้าใจง่ายขึ้นว่า ”1.จงสุขใจ~ในยามดี แต่ 2. จงใคร่ครวญ ~เมื่อถึงยามทุกข์ยาก พระเจ้าทรงบันดาลทั้ง 1).ยามดีและ 2).ยามร้าย มนุษย์จึงไม่สามารถรู้อะไรเลย เกี่ยวกับอนาคตของตน“ ในพระคัมภีร์ฉบับแปลภาษาอังกฤษ อย่าง NIV ให้ความหมายใกล้เคียงกับฉบับ TNCVว่า ”1.When times are good, be happy; but 2.when times are bad, consider this: God has made the one as well as the other. Therefore, no one can discover anything about their future.“ ~Ecclesiastes 7:14 NIV ใช่ครับ พี่น้องที่รัก ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ จงเตรียมใจ และทำใจไว้ก่อนเลยว่า เราอาจจะต้องเผชิญกับ 1.สิ่งที่ดี และสิ่งที่ร้าย ที่ไปด้วยกัน 2.ความเจริญรุ่งเรือง และความรุ่งริ่งของชีวิต ที่มาควบคู่กัน 3.ความชื่นชมยินดี และความอับจนทุกข์โศก ที่สลับกันไปมา พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกอย่างเกิดขึ้นคู่กัน และ พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราตื่นตัวมีสติอยู่เสมอว่า 1).เรามีความจำกัดในความรู้ 2).เรามีความเปราะบาง 3).เรามีความเสี่ยง 4).เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ 5).เราไม่ได้เก่งอย่างที่เราคิดดังนั้น สิ่งที่เราพึงทำก็คือ 1.เราไม่ควรทรนงมั่นใจตัวเองเกินไป 1).ในการดำเนินชีวิต หรือ 2)ในการรับใช้ 2.เราควรตระหนักในความจำกัดของเรา 3. เราควรยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้ง 1).ในอดีต 2).ในปัจจุบัน 4.เราควรได้คิด และมีศรัทธาเชื่อวางใจในพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรา สำหรับ 1).ปัจจุบันกาล ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ และ 2).อนาคตกาล ที่เราจะต้องประสบในวันหน้า 5.เราควรเรียนรู้ความจริงของชีวิตมนุษย์เราในโลกนี้ ว่าไม่มีอะไร 1).ดี แน่นอน หรือ 2).สมบูรณ์แบบ เสมอไป แต่มี ดีเลว สุขทุกข์ จริงเท็จ ผสมผสานกันไป เหมือนดังที่มีผู้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า 1. ในคำทักทายดีๆ อย่าง “Hello”(สวัสดี) -ยังมี “Hell’(นรก) และ “O”(ศูนย์) ซ่อนอยู่ 2.ในคำอำลา อย่าง ”Goodbye“(ลาก่อน)-ยังมี “Good”(สิ่งที่ดี) แฝงอยู่ 3.ในคำว่า ”Believe“(เชื่อ) -ยังมี ”Lie“(คำโกหก) ซ่อนไว้ 4.ในคำว่า ”Lover “(คนรัก) -ยังมี ”Over”(จบสิ้น) แอบแฝงมาด้วย 5.ในคำว่า “Friend”(มิตรหรือเพื่อน)-ยังมี “End“(จุดจบ) ซ่อนมาด้วย 6.ในคำว่า”Next“ (ต่อไป) -ยังมี ”Ex”(จากไป หรือ ออกไป) เป็นนัยะบอกไว้ 7.ในคำว่า “Life “(ชีวิต) -ยังมีคำว่า ”If”(ถ้า) เป็นเงื่อนไข แอบซ่อนอยู่ พี่น้องที่รัก ไม่ว่าคุณจะเผชิญอะไรเกี่ยวกับ 1.ชีวิต 2.สุขภาพ และ 3.การงานและพันธกิจ ต่างๆ ในชีวิตของคุณ จงเรียนรู้ที่จะสวมกอด และรับมือกับสิ่งเหล่านั้นอย่างมีชัยชนะ ด้วยการพึ่งวางใจในพระเจ้า --- Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message
  continue reading

465 ตอน

Artwork
iconแบ่งปัน
 
Manage episode 415280984 series 3264869
เนื้อหาจัดทำโดย Soul Food Ministries เนื้อหาพอดแคสต์ทั้งหมด รวมถึงตอน กราฟิก และคำอธิบายพอดแคสต์ได้รับการอัปโหลดและจัดหาให้โดยตรงจาก Soul Food Ministries หรือพันธมิตรแพลตฟอร์มพอดแคสต์ของพวกเขา หากคุณเชื่อว่ามีบุคคลอื่นใช้งานที่มีลิขสิทธิ์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่แสดงไว้ที่นี่ https://th.player.fm/legal
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4(30) ใน Hello อาจมี Hell รออยู่! ”ในเวลาที่ได้รับสิ่งดีๆ ก็จงชื่นชมยินดี แต่ในเวลาที่ได้รับสิ่งร้ายๆ ก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะค้นไม่พบว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรตามเขามาในภายหลัง“ ~ปัญญาจารย์ 7:14 THSV11 ”When times are good, you should be cheerful; when times are bad, think about what it means.God makes them both to keep us from knowing what will happen next.“ ~Ecclesiastes 7:14 CEV ผู้เขียนพระธรรมปัญญาจารย์ กล่าวเตือนสติพวกเรา จากพระคัมภีร์ฉบับแปล THSV11 ว่า 1.จงชื่นชมยินดี ~ในเวลาที่เราได้รับสิ่งดีๆ 2.จงพินิจพิจารณา ~ในเวลาที่เราได้รับสิ่งร้ายๆ โดยให้เหตุผลว่า “พระเจ้า”ทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง (1+2) เพื่อมนุษย์จะค้นไม่พบว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไร ตามเขามาในภายหลัง?“ ในฉบับคำแปลโบราณ TH1940 ที่เรียกพระคัมภีร์ข้อนี้ว่า “ท่าน​ผู้ประกาศ 7:14” ได้แปลไว้ว่า ”1.เมื่อ​เวลา​มี​ความ​จำเริญ​ ~ก็​จง​ชื่นชมยินดี, แต่​ 2.เมื่อ​ถึง​เวลา​อับจน ~​ก็​จง​ตรึกตรอง​ดู​นะ; เออ, พระเจ้า​ได้​ทรง​บันดาล​ให้​มัน​เกิด​มา​เป็น​คู่​กัน​ไป, เพื่อ​เมื่อ​ถึง​ที่สุด​ปลาย​มนุษย์​ก็​จะ​ไม่​มี​อะไร​เหลือ​ไว้​ข้างหลัง​เขา“ ~ท่าน​ผู้ประกาศ 7:14 TH1940 ในฉบับคำแปล TH1971ที่นิยมใช้กันมายาวนาน แปลว่า ”1.เมื่อเวลามีความเจริญ ~ก็จงชื่นชมยินดี แต่ 2.เมื่อถึงเวลาอับจน ~ก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะไม่ค้นได้ว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรมา“ ~ปัญญาจารย์ 7:14 TH1971 โยบเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่เข้าใจในความจริงนี้ ดังตัวอย่างทัศนคติของท่านในการรับมือ กับวิกฤติในชีวิต ดังนี้ ”1.ซาตานจึง 1).ออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์ และ 2).ทำให้โยบเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อม และ 3).โยบก็เอาชิ้นหม้อแตกมาขูดตัว และนั่งอยู่ในกองขี้เถ้า 4).ภรรยาท่านกล่าวกับท่านว่า “เธอยังจะยึดมั่นในความซื่อสัตย์อยู่อีกหรือ? จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ” แต่ 5).ท่านตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโง่เขลาจะพึงพูด เราจะรับสิ่งดีจากพระเจ้า และ จะไม่รับสิ่งไม่ดีบ้างหรือ?” ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของตน“ ~โยบ 2:7-10 THSV11 ใช่ครับ โยบ 1.รับมือกับเรื่องดีๆ ในชีวิต ด้วยความชื่นชมยินดี และ 2.รับมือกับเรื่องร้ายๆ ด้วยการพินิจพิจารณา ในคำแปล ฉบับ TNCV ขยายความให้เราเข้าใจง่ายขึ้นว่า ”1.จงสุขใจ~ในยามดี แต่ 2. จงใคร่ครวญ ~เมื่อถึงยามทุกข์ยาก พระเจ้าทรงบันดาลทั้ง 1).ยามดีและ 2).ยามร้าย มนุษย์จึงไม่สามารถรู้อะไรเลย เกี่ยวกับอนาคตของตน“ ในพระคัมภีร์ฉบับแปลภาษาอังกฤษ อย่าง NIV ให้ความหมายใกล้เคียงกับฉบับ TNCVว่า ”1.When times are good, be happy; but 2.when times are bad, consider this: God has made the one as well as the other. Therefore, no one can discover anything about their future.“ ~Ecclesiastes 7:14 NIV ใช่ครับ พี่น้องที่รัก ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ จงเตรียมใจ และทำใจไว้ก่อนเลยว่า เราอาจจะต้องเผชิญกับ 1.สิ่งที่ดี และสิ่งที่ร้าย ที่ไปด้วยกัน 2.ความเจริญรุ่งเรือง และความรุ่งริ่งของชีวิต ที่มาควบคู่กัน 3.ความชื่นชมยินดี และความอับจนทุกข์โศก ที่สลับกันไปมา พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกอย่างเกิดขึ้นคู่กัน และ พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราตื่นตัวมีสติอยู่เสมอว่า 1).เรามีความจำกัดในความรู้ 2).เรามีความเปราะบาง 3).เรามีความเสี่ยง 4).เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ 5).เราไม่ได้เก่งอย่างที่เราคิดดังนั้น สิ่งที่เราพึงทำก็คือ 1.เราไม่ควรทรนงมั่นใจตัวเองเกินไป 1).ในการดำเนินชีวิต หรือ 2)ในการรับใช้ 2.เราควรตระหนักในความจำกัดของเรา 3. เราควรยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้ง 1).ในอดีต 2).ในปัจจุบัน 4.เราควรได้คิด และมีศรัทธาเชื่อวางใจในพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรา สำหรับ 1).ปัจจุบันกาล ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ และ 2).อนาคตกาล ที่เราจะต้องประสบในวันหน้า 5.เราควรเรียนรู้ความจริงของชีวิตมนุษย์เราในโลกนี้ ว่าไม่มีอะไร 1).ดี แน่นอน หรือ 2).สมบูรณ์แบบ เสมอไป แต่มี ดีเลว สุขทุกข์ จริงเท็จ ผสมผสานกันไป เหมือนดังที่มีผู้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า 1. ในคำทักทายดีๆ อย่าง “Hello”(สวัสดี) -ยังมี “Hell’(นรก) และ “O”(ศูนย์) ซ่อนอยู่ 2.ในคำอำลา อย่าง ”Goodbye“(ลาก่อน)-ยังมี “Good”(สิ่งที่ดี) แฝงอยู่ 3.ในคำว่า ”Believe“(เชื่อ) -ยังมี ”Lie“(คำโกหก) ซ่อนไว้ 4.ในคำว่า ”Lover “(คนรัก) -ยังมี ”Over”(จบสิ้น) แอบแฝงมาด้วย 5.ในคำว่า “Friend”(มิตรหรือเพื่อน)-ยังมี “End“(จุดจบ) ซ่อนมาด้วย 6.ในคำว่า”Next“ (ต่อไป) -ยังมี ”Ex”(จากไป หรือ ออกไป) เป็นนัยะบอกไว้ 7.ในคำว่า “Life “(ชีวิต) -ยังมีคำว่า ”If”(ถ้า) เป็นเงื่อนไข แอบซ่อนอยู่ พี่น้องที่รัก ไม่ว่าคุณจะเผชิญอะไรเกี่ยวกับ 1.ชีวิต 2.สุขภาพ และ 3.การงานและพันธกิจ ต่างๆ ในชีวิตของคุณ จงเรียนรู้ที่จะสวมกอด และรับมือกับสิ่งเหล่านั้นอย่างมีชัยชนะ ด้วยการพึ่งวางใจในพระเจ้า --- Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message
  continue reading

465 ตอน

ทุกตอน

×
 
Loading …

ขอต้อนรับสู่ Player FM!

Player FM กำลังหาเว็บ

 

คู่มืออ้างอิงด่วน