Meditation Teacher สาธารณะ
[search 0]
เพิ่มเติม
ดาวน์โหลดแอปเลย!
show episodes
 
ธรรมะเพื่อการเจริญสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางโดยพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม A collection of the Lord Buddha's teachings conveyed by the venerable Luangpor Pramote Pamojjo, a master teacher of mindfulness for the modern world and Vipassana meditation.
  continue reading
 
Loading …
show series
 
พยายามฝึกตัวเอง มีโอกาสทำความดีอะไรก็ทำเสีย ความชั่วทั้งหลายงด ความดีมีโอกาสทำก็ทำไป ทุกวันทำในรูปแบบ จะได้ฝึกให้จิตมีสมาธิ ให้จิตมีบ้านอยู่ พอจิตใจเรามีกำลังแล้วเราก็มาเจริญปัญญา เรียนรู้ความจริงของร่างกายของจิตใจไป ถ้าเราเห็นความจริงของร่างกาย ว่าร่างกายนี้ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายเป็นธรรมดา ต่อไปอะไรเกิดขึ้นในร่างกาย ใจเราจะไม่ทุกข์ ถ้าเราเห็นควา…
  continue reading
 
เวลาเราปฏิบัติจิตเราไม่ธรรมดา เราบังคับตัวเอง ถ้าเราอยากรู้สึกตัวเอง รู้ด้วยใจธรรมดาๆ ธรรมดาฟังแล้วง่ายๆ แต่ยาก กว่าจะธรรมดาภาวนาลองผิดลองถูกกันนาน วิธีก็คือ ทำกรรมฐานไป แล้วคอยรู้ทันจิตตัวเอง จิตโลภแล้ว มันอยากสงบเร็ว รู้ทัน ความโลภก็ดับ จิตก็เป็นธรรมดาไม่โลภ นั่งไปแล้วไม่สงบสักที จิตใจหงุดหงิด มีสติรู้ว่าจิตหงุดหงิด มีโทสะ โทสะก็จะดับไป จิตก็จะเป…
  continue reading
 
จับหลักให้แม่น ถ้าเราจะเจริญปัญญา เราอย่าไปปรุงแต่งจิต จิตเป็นอย่างไรรู้ว่าเป็นอย่างนั้น แล้วเราจะเห็น จิตมันเป็นนักปรุงแต่ง เราไม่ได้เจตนาจะโลภ มันก็โลภได้เอง เราไม่ได้เจตนาจะโกรธ มันก็โกรธได้เอง เราไม่ได้เจตนาจะหลง มันก็หลงได้เอง เราเห็นจิตมันปรุงแต่งของมันได้เอง ให้เรารู้ทันความปรุงแต่งของจิต อย่าไปปรุงแต่งจิตเสียเอง จับตรงนี้ให้แม่นๆ จิตปรุงสุข…
  continue reading
 
ถ้าเราอยากให้ทุกอย่างมันดีตลอด ภาวนาแล้วหวังว่ามันจะดีตลอด มันจะทุกข์ เพราะมันเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ไม่มีจริง ไม่มีใครหรอกที่ภาวนาแล้วจิตเจริญตลอดเวลา ถ้าภาวนาแล้วจิตเจริญตลอดเวลา สิ่งที่เราจะได้มาคือมิจฉาทิฏฐิ เราจะรู้สึกว่าจิตเราเที่ยง จิตเป็นของบังคับได้ เป็นอัตตาตัวตน ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว ธรรมะได้แสดงธรรมสอนเราอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่มันปรุงแต่ง…
  continue reading
 
การปฏิบัติ เราต้องให้ถึงพร้อมด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา ปัญญาต้องเห็นไตรลักษณ์ เห็นว่าทุกอย่างเกิดแล้วก็ดับไปๆ มีแล้วก็หายไป ไม่มีอะไรคงที่ ทำอย่างนี้เรื่อยๆ ถ้าศีลเราไม่ดี สมาธิเราก็พัง พอศีลไม่ดี ใจจะถูกกิเลสเย้า ยั่วยวน ชักจูงไป จิตก็ฟุ้งซ่าน สมาธิเราก็เสีย ไม่ตั้งมั่น แล้วถ้าเราไม่มีศีล เราไปเจริญปัญญา มันจะเป็นปัญญาแบบคนทุศีล ปัญญาแบบตามใจกิเ…
  continue reading
 
ต้องฝึกสติให้ถูก ให้เป็นสัมมาสติจริงๆ ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก จิตใจเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง รู้สึก หัดรู้สึกเรื่อยๆ อย่างจิตเราหลงไปคิด เรามีสติรู้ เฮ้ย หลงคิดแล้ว มีคำว่า “แล้ว” ด้วย เพราะเวลาที่จิตหลงคิด ไม่มีสติอยู่แล้ว สติมาเกิดทีหลัง ตรงที่จิตมันจำสภาวะหลงคิดได้ พอจิตมันหลงคิดไป แล้วจิตมันจำได้ เฮ้ย สภาวะอย่างนี้ จิตที่ไหลๆ ออกไปอย่างนี้ มันหลง …
  continue reading
 
สัมมาสติ คือสติที่ระลึกรู้รูปนามกายใจ หรือสติปัฏฐานนั่นเอง สัมมาสติเมื่อทำให้มาก เมื่อเจริญให้มาก จะทำให้สัมมาสมาธิบริบูรณ์ เห็นไหมอาศัยการมีสติ จะทำให้สมาธิเราบริบูรณ์ ตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา โดยที่ไม่ได้เจตนา ไม่ได้รักษา ไม่ได้ทำขึ้นมา การมีสติทำให้เรามีศีลบริบูรณ์ ให้มีสมาธิบริบูรณ์ขึ้นมา แล้วสัมมาสมาธิเมื่อทำให้มากเจริญให้มาก จะทำให้การเจริญปัญญา…
  continue reading
 
ตราบใดที่ยังไม่เห็นทุกข์ ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดไม่เลิกหรอก ถึงจะอยากไม่เกิดมันก็ยังเกิด เพราะปัญญายังไม่พอ เราปล่อยวางสิ่งต่างๆ ได้ เราเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ดี ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แล้วถ้าเราเข้าไปยึด หรือเราเข้าไปอยาก มันจะนำความทุกข์มาให้ ฉะนั้นไม่เห็นทุกข์ก็วางไม่ได้ ปล่อยไม่ได้ พวกเราอยากเข้าถึงธรรมะที่ไม่ทุกข์ ที่ไม่เวียนว่ายตายเกิด …
  continue reading
 
ถ้าสติ สมาธิเรายังไม่แข็งแรง ดูกายไป กายมันไม่เคยหนีไปไหน ดูไป จนมันเห็น ทีแรกเห็นถึงความมีอยู่ของมัน ทำไมมีกายแล้วไม่รู้สึกว่ากายมีอยู่ คือหลง ต่อไปก็ดูความจริงของกายคือไตรลักษณ์ พอดูไปๆ จิตมันเห็นความจริงแล้วว่ากายนี้มีแต่ภาระ มีความทุกข์บีบคั้นอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก มีความทุกข์บีบคั้นอยู่ทุกๆ อิริยาบถ จะต้องเคลื่อนไหว ต้องขยับ หนีความทุกข์ไปเรื่อ…
  continue reading
 
เรารู้สึกลงไปในร่างกาย มีแต่ความไม่เที่ยง ทำไมมันไม่เที่ยง มันถูกความทุกข์บีบคั้นอยู่ตลอดเวลา นั่งนานก็ทุกข์ เดินนานก็ทุกข์ นอนนานก็ทุกข์ เพราะฉะนั้นร่างกายเปรียบเหมือนกวางตัวหนึ่ง หรืออีเก้งตัวหนึ่ง ถูกความทุกข์ คือหมาล่าเนื้อฝูงหนึ่งไล่ตามกัดทั้งวันเลย ก็ต้องวิ่งๆๆ หนีไป วิ่งหนีไปจนกระทั่งบาดเจ็บมาก วิ่งไม่ไหว ล้มลงตาย ร่างกายนี้ก็เหมือนกัน ถูกคว…
  continue reading
 
ที่ฟังหลวงพ่อนี่ก็เป็นปริยัติ เอาไปทำ ทำปฏิบัติสมถะให้จิตสงบ ทำสมถะให้จิตตั้งมั่น เจริญวิปัสสนาให้เห็นความจริง คือไตรลักษณ์ของรูปนามกายใจ ถัดจากนั้นมรรคผลจะเกิดเอง นี่เรื่องที่เราจำเป็นต้องเรียน ในขณะที่เราฟังอย่างนี้เราเรียนปริยัติ แล้วเราก็ลงมือปฏิบัติ แล้วตรงที่สำคัญมากเลยตอนที่เจริญปัญญา เราจะเรียนถึงสภาวธรรมจริงๆ รูปธรรมนามธรรม อันนี้ว่าไปก็คื…
  continue reading
 
ดูนามธรรมไม่ได้ ดูกายไป ดูกายแล้ว ใจมันไม่ลง มันไม่ชอบ ก็ดูเวทนาไป หรือบางคนดูเวทนาก็ไม่ชอบ ก็ดูสังขารไป ดูกรรมฐานที่เราถนัด ทางใครทางมัน ไม่ต้องเลียนแบบกัน ได้ยินว่าหลวงพ่อดูจิต แล้วคิดว่าทุกคนต้องดูจิต ไม่ใช่ คนส่วนใหญ่บางทีต้องเริ่มจากกายด้วยซ้ำไป เพราะกำลังไม่พอ สติไม่ว่องไวพอ จิตมันไว ร่างกายมันไม่ไว แต่จิตมันว่องไว จิตหนีเที่ยวอย่างรวดเร็ว ร่…
  continue reading
 
ถ้าต้องการให้จิตสงบ น้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุขอย่างต่อเนื่อง ทำอันนี้ ทำไป เดี๋ยวสงบเอง ถ้าต้องการให้จิตตั้งมั่น มันจะเป็นสมาธิอีกชนิดหนึ่ง สมาธิที่จิตสงบอยู่เฉยๆ เรียกว่าอารัมมณูปนิชฌาน สงบอยู่ในอารมณ์อันเดียว อารมณ์เป็นตัวเอก แต่เลือกอารมณ์ที่อยู่แล้วมีความสุข แต่ถ้าเราอยากให้จิตตั้งมั่น มันเป็นสมาธิอีกชนิดหนึ่ง สามารถเห็นไตรลักษณ์…
  continue reading
 
การดูจิตดูใจไม่ใช่เรื่องยาก แค่ย้อนมาสังเกตจิตใจตนเอง มีตา มีหู จมูก ลิ้น กาย ใจเหมือนกับคนอื่นนั่นล่ะ ก็ไม่ต้องแกล้งทำหูหนวกตาบอด ไม่ต้องทำจิตให้นิ่งๆ ไม่คิดไม่นึก ก็ให้จิตมันทำงานไปตามธรรมชาติธรรมดา มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีใจก็คิด ให้มันทำงานไป พอตาเห็นรูป เราก็ไม่แทรกแซงจิตว่าจิตต้องเฉย ห้ามยินดียินร้ายอะไร ไม่ต้อง ตาเห็นรูปแล้วจิตเกิดยินดียินร้ายต…
  continue reading
 
เราก็ต้องรู้ว่า เราจะทำสมาธิเพื่ออะไร ทำสมถะเพื่ออะไร เพื่อให้มีแรง เพื่อให้จิตตั้งมั่น ตอนไหนจิตไม่มีแรง น้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญที่ตัวอารมณ์ จิตก็จะมีกำลัง เพราะจิตไม่ได้วิ่งวอกแวก ไปที่อารมณ์โน้นทีอารมณ์นี้ที เพราะจิตอยู่ในอารมณ์อันเดียว จิตก็ได้พักผ่อน จิตก็เลยมีแรง วิธีทำให้จิตตั้งมั่นก็คือ อาศัยสติรู้เท่าทันพฤต…
  continue reading
 
พอจิตตั้งมั่นและเป็นกลาง ก็จะเกิดปัญญาเห็นความจริงของร่างกายของจิตใจ เมื่อเห็นความจริงของร่างกายของจิตใจอย่างถ่องแท้แล้ว จะรู้เลยขันธ์ 5 มันไม่มีอะไรหรอก ขันธ์ 5 ก็มีแต่ทุกข์นั่นล่ะ รูปนาม กายใจนี่มีแต่ทุกข์นั่นล่ะ พอใจมันยอมรับความจริงได้ ความอยากก็ไม่เกิด เมื่อความอยากไม่เกิด ความยึดถือ ความดิ้นรนปรุงแต่งของจิตก็ไม่เกิด ความทุกข์ทางใจก็ไม่เกิด จิ…
  continue reading
 
Loading …

คู่มืออ้างอิงด่วน