Dhamma สาธารณะ
[search 0]
เพิ่มเติม
ดาวน์โหลดแอปเลย!
show episodes
 
ธรรมะเพื่อการเจริญสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางโดยพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม A collection of the Lord Buddha's teachings conveyed by the venerable Luangpor Pramote Pamojjo, a master teacher of mindfulness for the modern world and Vipassana meditation.
  continue reading
 
เสียงบรรยายธรรมของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต Dhamma talks by Venerable (Luangpor) Paisal Visalo, Abbot of Watpasukato, Chaiyaphum, Thailand. MP3 files are courtesy of https://www.facebook.com/Zensukato Contact admin: watpasukato19@gmail.com
  continue reading
 
Artwork

1
Livingpresent

Livingpresent

Unsubscribe
Unsubscribe
รายวัน+
 
ธรรมะบรรยาย จาก พระอาจารย์ชาญชัย อธิปัญโญ และอภิธรรมสังคหะ
  continue reading
 
Artwork

1
ธรรมเทศนาวัดป่านานาชาติ ปี ๒๕๓๑-๒๕๔๔ (แผ่นที่ ๑-๖)

พระอาจารย์ชยสาโร Ajahn Jayasaro (ชยสาโร ภิกขุ ชยสาโรภิกขุ Bhikku)

Unsubscribe
Unsubscribe
รายเดือน
 
ธรรมเทศนาวัดป่านานาชาติ ปี ๒๕๓๑-๒๕๔๔ (แผ่นที่ ๑-๖)
  continue reading
 
Artwork

1
ธรรมเทศนาวัดป่านานาชาติ ปี ๒๕๓๑-๒๕๔๔ (แผ่นที่ ๗-๑๒)

พระอาจารย์ชยสาโร Ajahn Jayasaro (ชยสาโร ภิกขุ ชยสาโรภิกขุ Bhikku)

Unsubscribe
Unsubscribe
รายเดือน
 
ธรรมเทศนาวัดป่านานาชาติ ปี ๒๕๓๑-๒๕๔๔ (แผ่นที่ ๗-๑๒)
  continue reading
 
Loading …
show series
 
ความเพียรชอบกับความเพียรอย่างที่เราคิดกันมันคนละเรื่องกัน ความเพียรชอบเพียรลดละกิเลสที่มีอยู่ เพียรปิดกั้นอกุศลใหม่ไม่ให้เกิด เพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพียรทำกุศลที่เกิดแล้วให้เจริญให้มากขึ้น จะทำได้ก็อาศัยสติ ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย อย่างเรามีกิเลส เรามีสติปุ๊บ กิเลสดับทันทีเลย กิเลสที่มีอยู่ดับ ในขณะที่มีสติอยู่กิเลสใหม่ก็ไม่เกิด เห็นไหมเร…
  continue reading
 
9 ส.ค. 67 - เครียดได้แต่ใจไม่ทุกข์ : ถ้าเครียดก็ปล่อยให้ตัวเองเครียดไปได้เลยนะ ไม่ต้องโทษตัวเอง อนุญาตให้ความเครียดเกิดขึ้นได้ อนุญาตให้ตัวเองเครียดได้ บางทีคนเราไปยึดมั่นกับความถูกต้องมากไป แล้วเราก็เลยโทษตัวเอง หรือตำหนิตัวเอง ว่าทำไมจึงมีความโกรธ ทำไมจึงมีความเครียด ทำไมไม่อยู่กับปัจจุบัน ทำไมไม่ปล่อยวาง ตำหนิตัวเอง แต่บางครั้ง การยอมรับตัวเอง ว…
  continue reading
 
หัดรู้สึกตัวไว้ พอรู้สึกตัวได้ แล้วเจริญปัญญา วิธีจะรู้สึกตัวง่ายๆ เลย จิตไหลไปแล้วรู้ ใจมันก็จะตั้งมั่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมา ใจตื่นขึ้นมาก็แยกขันธ์ กายกับจิตคนละอัน เวทนากับจิตก็คนละอัน สังขารกับจิตก็คนละอัน จิตกับจิตแต่ละดวงๆ ก็คนละดวง มันจะแยกๆๆ ออกไป แล้วจะเห็นว่าทุกอย่างเกิดแล้วดับ มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับบังคับไม่ได้ ดูไปเรื่อยๆ พอรู้จริงก็จะวาง…
  continue reading
 
8 ส.ค. 67 - จิตไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม : คนที่ไม่ยอมรับความโศกความเศร้าความโกรธ พยายามกดข่มมัน สุดท้ายก็ตกอยู่ในอำนาจของมัน คนที่ไม่ยอมรับเสียงในหัว ที่ตำหนิครูบาอาจารย์ บุพการี จ้วงจาบพระรัตนตรัย พยายามไปต่อสู้ หรือสู้รบตบมือกับมัน ยิ่งตกอยู่ในอำนาจของมัน แต่พอเราเริ่มยอมรับได้ ใจมันก็จะเริ่มไม่หวั่นไหวแล้ว ไม่กระเพื่อมแล้ว เสียงดังมากระทบ แต่เ…
  continue reading
 
7 ส.ค. 67 - มองลบเป็นนิจ ชีวิตจึงติดลบ : ชีวิตตัวเองอาจจะมีอะไรดีมากมาย แต่มองไม่เห็นเลย เห็นแต่ลบ เห็นแต่ความทุกข์ เห็นแต่อุปสรรค เห็นแต่ปัญหา หรือบางทีก็อาจเห็นความผิดพลาด ตื่นเช้าขึ้นมา ไม่สามารถที่จะชื่นชมสิ่งที่มีอยู่รอบตัวได้เลย มองไม่เห็นเลยนะว่าฟ้ามันสวย เรารู้สึกโชคดีนะที่เรายังมีลมหายใจ คิดไม่ออกจริงๆ เช่น รถติดมันดีอย่างไรบ้าง หรือว่าวัน…
  continue reading
 
6 ส.ค. 67 - ออกจากทุกข์เพราะรู้ : ถ้าหากว่าไม่อยากจะถูกความทุกข์ครองใจ ก็ต้องพยายามเติมความรู้ตัวให้เกิดขึ้น แล้วก็เรียนรู้สัจธรรมความจริงของชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อจะได้รู้ความจริงอย่างแจ่มแจ้ง ให้ตระหนักเห็นโทษของความหลงว่า ไม่ว่าจะเป็นความไม่รู้ตัว หรือการไม่รู้ความจริง ตัวนี้ต่างหากที่มันเป็นสมุทัย หรือเหตุ หรือสาเหตุแห่งทุกข์ ไม่ใช่เพราะว่…
  continue reading
 
กฎข้อที่หนึ่ง ให้ความรู้สึกเกิดแล้วค่อยรู้เอา อย่าไปรอดู กฎข้อที่สอง เวลาดูดูแบบคนวงนอกไม่เข้าไปคลุกวงใน กฎข้อที่สาม หลังจากที่เราไปรู้อารมณ์แล้ว ถ้าจิตยินดีให้รู้ทัน ถ้าจิตยินร้ายให้รู้ทัน 3 ข้อนี้ก็คือช่วงเวลา 3 ช่วงของการปฏิบัติ อันแรกที่บอกว่าอย่าไปดักดู อันนี้คือก่อนที่สภาวะจะเกิดอย่าไปนั่งจ้อง อันที่สอง ขณะที่สภาวะเกิด ดูเหมือนคนวงนอกไปดู อัน…
  continue reading
 
5 ส.ค. 67 - เติมเต็มจิตด้วยความรู้สึกตัว : วัน ๆ หนึ่งเราหลงมากกว่ารู้ตัว เวลาเราหลับ เราหลับน้อยกว่าเวลาเราตื่น เราหลับก็อาจจะสัก 6 หรือ 7 หรือ 8 ชั่วโมง แต่เราตื่น 16 ชั่วโมง 18 ชั่วโมง นั่นเป็นเรื่องของกาย ส่วนเรื่องของใจแม้ในช่วงเวลาที่เราตื่น 18 ชั่วโมง 16 ชั่วโมง ส่วนใหญ่มันหลง ส่วนน้อยที่รู้สึกตัว แล้วก็เป็นความรู้สึกตัวแบบไม่ต่อเนื่อง ถูกคว…
  continue reading
 
2 ส.ค. 67 - อย่ามองแบบเหมารวม : บางคนที่มีเงินก็เหมารวมว่าคนจนนั้นเห็นแก่เงิน ส่วนคนที่พอมีพอกินหรือคนที่ฐานะไม่ดีก็เหมารวมว่าคนรวยนั้นเห็นแก่เงิน ประสบการณ์ของเราหรือสิ่งที่เราได้ยินมาอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ว่าอย่าเหมารวมว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น อย่าเหมารวมว่าคนจนจะเห็นแก่เงิน หรืออย่าเหมารวมว่าคนรวยจะเป็นพวกงก ตระหนี่ เราต้องดูตามเนื้อผ้าไม่ใช่ตัดส…
  continue reading
 
เราเป็นคนเราต้องรู้จักคำว่ากตัญญู บรรพบุรุษมีบุญคุณ คนไม่กตัญญูใช้ไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี เราอยากดูว่าคนไหนดีไม่ดี ดูว่าเขากตัญญูไหม ความกตัญญูกว้างขวาง กตัญญูต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ ใหญ่โตขึ้นมาก็คือกว้างขึ้นมาก็คือ กตัญญูกับชาติบ้านเมือง แล้วเราเป็นชาวพุทธเราก็ต้องกตัญญูกับพระพุทธเจ้าด้วย การจะกตัญญู…
  continue reading
 
1 ส.ค. 67 - ออกจากทุกข์ ให้ใจกลับมาอยู่กับปัจจุบัน : เพราะถ้าไม่มีสติที่เรียกว่าสัมมาสติ มันก็จะระเหเร่ร่อน ไหลไปอดีตมั่งลอยไปอนาคตอยู่ร่ำไป เสร็จแล้วก็จะจมอยู่ในอารมณ์ ไหลไป ลอยไปลอยมาก็จมอยู่ในอารมณ์ จมมีความทุกข์ เพราะไปคว้าเอาอดีต ไปคว้าเอาอนาคตมาแบกเอาไว้ เสร็จแล้วก็ไปโทษคนนั้นคนนี้ว่าทำให้เราทุกข์ ไม่ต่างจากคนที่แบกก้อนหินแล้วก็โทษก้อนหินว่า …
  continue reading
 
บางคนก็คิดแค่ว่าจะทำบุญ จะฟังเทศน์มหาชาติ จะทอดกฐินหลายๆ วัดอะไรอย่างนี้ แล้ววันหนึ่งจะได้ไปเจอพระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป แล้วก็จะบรรลุธรรมอย่างง่ายดาย หลวงปู่ดูลย์ท่านบอกไม่ฉลาดหรอก เพราะธรรมะที่พระศรีอาริย์สอน กับที่พระพุทธโคดมสอนก็อันเดียวกัน ถ้ายุคนี้เหลวไหลก็สะสมนิสัยเหลวไหลไปจนถึงยุคข้างหน้า ไปเจอพระศรีอาริย์มันก็เหลวไหลต่อไปอีก ม…
  continue reading
 
31 ก.ค. 67 - เมื่อรักษาใจ ทุกข์ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก : แต่สิ่งที่เราทำได้คือ รักษาใจ นี่เป็นเบื้องต้นที่จะช่วยทำให้ใจเราไม่ทุกข์ คือพอเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจแล้ว เกิดความอารมณ์ขึ้นมา ก็รู้ทัน ไม่ปล่อยให้มันเข้ามาครอบงำใจ สามารถจะวางระยะห่าง อันนี้ด้วยวิธีการที่หลวงพ่อคำเขียนท่านใช้คำว่า เห็นไม่เข้าไปเป็น พอเห็นเมื่อไร ใจก็จะอยู่ห่างสิ่งนั้น เห็นกองไฟ ใจก็อ…
  continue reading
 
เราจะปฏิบัติอันแรกเพื่อความพ้นทุกข์ ข้อสอง ต้องการพ้นทุกข์ก็ต้องดับที่เหตุ วิธีที่จะดับเหตุทำอย่างไร รู้ทุกข์ให้แจ่มแจ้ง ถ้ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไร สมุทัยก็เป็นอันถูกละอัตโนมัติ รู้ทุกข์แจ่มแจ้ง คือรู้อะไร อันที่หนึ่ง รู้ถึงความมีอยู่ของรูปธรรมนามธรรม ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นตัวเราของเรานี้ล่ะ อันที่สอง รู้ลึกซึ้งลงไป รูปธรรมนามธรรมทั้งหลาย ที่ประกอบ…
  continue reading
 
30 ก.ค. 67 - วิธีแก้ทุกข์โดยไม่เพิ่มทุกข์ : หลายคนมองผิดฝาผิดตัว มองไม่ลึกพอ ไปเข้าใจว่าความคิดที่ผุดขึ้นมา ที่เราเรียกว่าความฟุ้งซ่าน ทำให้ทุกข์ ที่จริงไม่ใช่ มันไม่ทำให้เราทุกข์เลย แต่ที่ทุกข์เพราะมันมีความอยาก อยากจะให้ความคิดพวกนี้มันดับไป ทำให้จิตว่างจากความคิด ถ้ารู้ทันความอยากนั้น ความอยากมันก็จะหายไป ความคิดยังมีอยู่ ผุดขึ้นมา แต่ไม่ทุกข์แล…
  continue reading
 
ภาวนา พยายามทำเข้า ลดละความชั่ว สร้างสรรค์ความดีให้ตัวเองไว้ มีโอกาสทำทานก็ทำ อย่าทำจนตัวเองลำบากเดือดร้อน ศีลรักษาให้เต็มที่ สมาธิต้องทำทุกวัน แบ่งเวลาไว้ทำในรูปแบบทุกวันๆ ปัญญาก็เรียนรู้ความจริงของโลกของชีวิตไป ถ้าอินทรีย์เรายังอ่อนเราลองมองทั่วๆ ไป สัตว์ที่เป็นทุกข์สัตว์ที่ลำบากเยอะแยะไปหมด เห็นแล้วใจก็เกิดเมตตากรุณาได้ แล้วก็ไม่เอาตัวเองเป็นที่…
  continue reading
 
28 ก.ค. 67 - อย่าเชื่อสิ่งที่เห็นไปเสียหมด : สิ่งที่จะวัดความความก้าวหน้าในการปฏิบัติอย่างหนึ่งนั่นก็คือ รู้จักทักท้วงความคิด เพราะรู้ว่าความคิดนี่มันไม่ใช่ว่าจะเชื่อได้ทุกเรื่อง ความคิดที่ดีก็มี ความคิดที่ไม่ดีก็มี ความคิดที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความจริงก็มี ฉะนั้นเชื่อมันทุกอย่างไม่ได้ ต้องรู้จักทักท้วง แต่บางครั้งมันไม่ทันทักท้วงเพราะมันเกิดอารม…
  continue reading
 
พยายามฝึกตัวเอง มีโอกาสทำความดีอะไรก็ทำเสีย ความชั่วทั้งหลายงด ความดีมีโอกาสทำก็ทำไป ทุกวันทำในรูปแบบ จะได้ฝึกให้จิตมีสมาธิ ให้จิตมีบ้านอยู่ พอจิตใจเรามีกำลังแล้วเราก็มาเจริญปัญญา เรียนรู้ความจริงของร่างกายของจิตใจไป ถ้าเราเห็นความจริงของร่างกาย ว่าร่างกายนี้ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตายเป็นธรรมดา ต่อไปอะไรเกิดขึ้นในร่างกาย ใจเราจะไม่ทุกข์ ถ้าเราเห็นควา…
  continue reading
 
27 ก.ค. 67 - ธรรมที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน : "การทำนั่นทำนี่ ก็คือ การทำกิจการงานต่าง ๆ รวมทั้งการเสพการบริโภคด้วย เจอนั่นเจอนี่ ก็หมายถึงว่า เจอรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ธัมมารมณ์ที่เกิดขึ้น เจอเหตุการณ์ที่เป็นบวกเรียกว่าโลกธรรมฝ่ายบวกหรืออิฏฐารมณ์ เจอเหตุการณ์ฝ่ายลบเรียกว่าอนิฏฐารมณ์หรือว่าโลกธรรมฝ่ายลบ ไม่ว่าเจออะไร ก็เห็นหรือรู้ใจที่คิดนึก รวมถึงอาร…
  continue reading
 
เวลาเราปฏิบัติจิตเราไม่ธรรมดา เราบังคับตัวเอง ถ้าเราอยากรู้สึกตัวเอง รู้ด้วยใจธรรมดาๆ ธรรมดาฟังแล้วง่ายๆ แต่ยาก กว่าจะธรรมดาภาวนาลองผิดลองถูกกันนาน วิธีก็คือ ทำกรรมฐานไป แล้วคอยรู้ทันจิตตัวเอง จิตโลภแล้ว มันอยากสงบเร็ว รู้ทัน ความโลภก็ดับ จิตก็เป็นธรรมดาไม่โลภ นั่งไปแล้วไม่สงบสักที จิตใจหงุดหงิด มีสติรู้ว่าจิตหงุดหงิด มีโทสะ โทสะก็จะดับไป จิตก็จะเป…
  continue reading
 
26 ก.ค. 67 - ไม่มีอะไรที่เป็นเราหรือของเรา : ถึงที่สุดแล้วไม่มีอะไรที่เราจะยึดมั่นเป็นเรา เป็นของเราได้เลย ไม่ว่าจะเป็นลาภสักการะ ชื่อเสียงเกียรติยศ หรือแม้กระทั่งร่างกายนี้ ก็ไม่อาจยึดได้ว่าเป็นเรา เป็นของเราได้ ความที่ท่านเข้าใจ หรือเข้าถึงสัจธรรมความจริงนี้แหละ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ท่านเปี่ยมด้วยคุณธรรมมากมายหลายประการ ที่เราทุกท่านเมื่อได้สั…
  continue reading
 
จับหลักให้แม่น ถ้าเราจะเจริญปัญญา เราอย่าไปปรุงแต่งจิต จิตเป็นอย่างไรรู้ว่าเป็นอย่างนั้น แล้วเราจะเห็น จิตมันเป็นนักปรุงแต่ง เราไม่ได้เจตนาจะโลภ มันก็โลภได้เอง เราไม่ได้เจตนาจะโกรธ มันก็โกรธได้เอง เราไม่ได้เจตนาจะหลง มันก็หลงได้เอง เราเห็นจิตมันปรุงแต่งของมันได้เอง ให้เรารู้ทันความปรุงแต่งของจิต อย่าไปปรุงแต่งจิตเสียเอง จับตรงนี้ให้แม่นๆ จิตปรุงสุข…
  continue reading
 
24 ก.ค. 67 - ทุกอารมณ์มีประโยชน์ ถ้ารู้จักใช้ : "อารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวก็ดี ความโกรธก็ดี ความเจ็บความปวดก็ดี หรือแม้กระทั่งความโลภ ไม่ใช่ว่าจะก่อทุกข์ได้อย่างเดียว ก็สามารถจะเป็นประโยชน์ถ้าเรารู้จักใช้ แม้กระทั่งความทุกข์ ไม่มีใครชอบ แต่ว่าก็สามารถทำให้เราพ้นทุกข์ได้ พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลหลายท่านทุกข์มาก แต่เพราะความทุกข์ที่ทำให้ท่านเห็…
  continue reading
 
ถ้าเราอยากให้ทุกอย่างมันดีตลอด ภาวนาแล้วหวังว่ามันจะดีตลอด มันจะทุกข์ เพราะมันเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ไม่มีจริง ไม่มีใครหรอกที่ภาวนาแล้วจิตเจริญตลอดเวลา ถ้าภาวนาแล้วจิตเจริญตลอดเวลา สิ่งที่เราจะได้มาคือมิจฉาทิฏฐิ เราจะรู้สึกว่าจิตเราเที่ยง จิตเป็นของบังคับได้ เป็นอัตตาตัวตน ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว ธรรมะได้แสดงธรรมสอนเราอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่มันปรุงแต่ง…
  continue reading
 
23 ก.ค. 67 - อย่ามาวัดเพียงเพื่อหาความสงบ : ลองนึกดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราที่วัด ถ้าเรายังทำใจไม่ได้ ยังร้อนรุ่มวุ่นวาย ถึงเวลาที่เราเจอความเจ็บป่วยชนิดที่หนีไม่พ้น มันตามติด มันเกิดกับร่างกายเราตลอด 24 ชั่วโมง เต็มไปด้วยความติดขัด เต็มไปด้วยความไม่สะดวกสบาย เราจะรับมือกับมันได้อย่างไร ถ้าเรามัวแต่คิดว่าจะหนีปัญหา และคิดว่าปัญหาจะทำให้สงบได้ ถึงเวลา…
  continue reading
 
Loading …

คู่มืออ้างอิงด่วน